【ตรวจ16พฤษภาคม2566】‘ไทยปิด’อินเตอร์เปิด ‘ธุรกิจโรงเรียน’ เด็กๆ‘น่าเป็นห่วง??’ | เดลินิวส์

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการประกาศว่าจะปิดตัวโรงเรียนในรูปแบบเดิม ทั้งผู้ปกครองและนักเรียนต่างก็ระส่ำระสายกันไม่น้อย ทั้งนี้ โฟกัสกันที่กรณี “โรงเรียนหลักสูตรไทยปิดตัว” ในภาพรวม ๆ สถานการณ์เช่นนี้ “เกิดขึ้นมาตลอดในช่วงไม่กี่ปีมานี้” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

“หลังมีวิกฤติโควิด-19”กรณีนี้ “เกิดถี่”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

“โรงเรียนไทยปิดตัว” ยิ่ง “เกิดขึ้นบ่อย”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

กรณีดังกล่าวนี้เป็น “สถานการณ์สวนทาง” ที่มีนัยสำคัญ ระหว่าง “โรงเรียนหลักสูตรไทย-โรงเรียนนานาชาติ” ที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” จะสะท้อนต่อข้อมูลในวันนี้ ซึ่งนี่เป็น “ปรากฏการณ์” ที่หลายฝ่าย “จับตา” หลังจากเกิดสถานการณ์ “โรงเรียนไทย” ทยอยปิดตัว สวนทางกับการเติบโต-การเกิดขึ้นของ “โรงเรียนนานาชาติ” ที่มีการเปิดตัวต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเรื่องนี้ทำให้นักวิชาการ-นักการศึกษารู้สึกเป็นห่วง เพราะ อาจกระทบต่อเด็กไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะ กลุ่มที่ “ครอบครัวมีรายได้ไม่สูง” นี่ก็ “ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมีเด็กหลุดระบบมากขึ้น??”จากปรากฏการณ์นี้ ขณะที่

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

มีการ “วิเคราะห์โรงเรียนนานาชาติ”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

สำหรับปรากฏการณ์ “โรงเรียนนานาชาติเปิดเพิ่มขึ้น” สวนทาง “โรงเรียนไทยทยอยปิดตัว” นั้น ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ก็มีบทวิเคราะห์ที่จัดทำไว้โดย ธนพร เพชรจิรพงศ์ นักวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ที่ได้มีการสะท้อนผ่านบทวิเคราะห์เรื่อง “แนวโน้มธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ปี 2567” ที่เผยแพร่ไว้เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2567 ซึ่งมีแง่มุมน่าสนใจ โดยสังเขปมีดังนี้

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

ทางนักวิจัยศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ระบุไว้ว่า ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติยังคงเติบโตสวนทางกับภาพรวมจำนวนนักเรียนและโรงเรียนไทยที่หดตัวอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ตามแนวโน้มสถิติการเกิดที่ลดลง, จากผู้ปกครองยุคปัจจุบันที่ให้ความนิยมหลักสูตรการศึกษาต่างประเทศเพิ่มขึ้น, จากจำนวนผู้ปกครองที่มีศักยภาพลงทุนด้านการศึกษาเพื่อบุตรหลานที่มีมากขึ้น จนโรงเรียนนานาชาติเติบโตเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่า ในปี 2567 ตลาดโรงเรียนนานาชาติจะเติบโตถึง 13% จากปี 2566 และน่าจะมีมูลค่าตลาดกว่า 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดการณ์จากจำนวนนักเรียนและโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่มขึ้น

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

รวมถึงดูจาก “ค่าเล่าเรียนปรับสูงขึ้น”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

ที่ “กระตุ้นโรงเรียนนานาชาติเปิดเพิ่ม”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

ในบทวิเคราะห์ดังกล่าว ทางนักวิจัยศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคาดการณ์ “การขยายตัวของตลาดโรงเรียนนานาชาติในไทย” ไว้ว่า มีแนวโน้มที่โรงเรียนนานาชาติจะขยายตัวไปสู่พื้นที่นอกกรุงเทพฯ มากขึ้น เนื่องจากในกรุงเทพฯ มีพื้นที่จำกัด และอีกปัจจัยที่ทำให้โรงเรียนนานาชาติเริ่มขยายตัวออกนอกพื้นที่เมืองหลวงนั้น ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะต้องการเลี่ยงการแข่งขันที่สูงจากจำนวนโรงเรียนในกรุงเทพฯ ที่มีอย่างหนาแน่น นี่เป็นการวิเคราะห์ “พื้นที่เปิดตัวโรงเรียนนานาชาติ” ในไทย

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

มีแนวโน้ม “ขยายออกนอกกรุงเทพฯ”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

ทั้งนี้ นอกจากมุมวิเคราะห์ที่มีต่อสถานการณ์-แนวโน้มโรงเรียนนานาชาติแล้ว ก็ยังมีการวิเคราะห์ “แนวโน้มกิจการโรงเรียนหลักสูตรไทย” ไว้ด้วย โดยจากระบบสถิติการทะเบียนของกระทรวงศึกษาธิการ พบว่า จำนวนนักเรียนโรงเรียนไทยมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง สวนทางกับจำนวนนักเรียนโรงเรียนนานาชาติ โดยปีการศึกษา 2567 มีจำนวนนักเรียนในโรงเรียนไทยลดลง 1.7% ขณะที่ นักเรียนโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หรือปีการศึกษา 2566

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

สาเหตุที่จำนวนนักเรียนโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้น มีการขยายความไว้ว่า มาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ 1.การเพิ่มขึ้นของจำนวนชาวต่างชาติในไทย โดยเฉพาะที่ทำงานตำแหน่งบริหาร ที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 0.6% ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา, 2.ความนิยมหลักสูตรการศึกษาต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น จากการที่มีการพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยและทันการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เมื่อเทียบกับหลักสูตรไทย และ 3.ศักยภาพการลงทุนด้านการศึกษาของผู้ปกครองที่สูงขึ้น เหล่านี้เป็น “ปัจจัยหลัก” ที่หนุนการเติบโตของจำนวนนักเรียนโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยที่กระตุ้นให้ “โรงเรียนนานาชาติในไทยเพิ่มขึ้น” เรื่อย ๆ

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

ขณะที่ “โรงเรียนไทยทยอยปิดกิจการ”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

ทาง ธนพร เพชรจิรพงศ์ นักวิจัยยังฉายภาพ “จำนวนโรงเรียนไทยลดลงต่อเนื่อง” ซึ่งพบว่า ปี 2567 นี้ภาพรวมจำนวนโรงเรียนไทยลดลง 0.5% จากปี 2566 และหากเปรียบเทียบกับตัวเลขของปีการศึกษา 2565 ก็พบว่า จำนวนโรงเรียนไทยมีการหดตัวลดลงถึง 6.6% โดย โรงเรียนรัฐบาลมีอัตราลดลง 0.6% ต่อปี ส่วนโรงเรียนเอกชนหลักสูตรไทยปรับตัวลดลง 0.7% ต่อปี สวนทางกับการเติบโตของโรงเรียนนานาชาติที่เพิ่มขึ้น 5.0% ต่อปีซึ่งตัวเลขนี้ก็สะท้อนถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงกิจการโรงเรียนไทยที่มุ่งสู่หลักสูตรการศึกษาต่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นโดยสังเขปจาก “มุมวิเคราะห์” ที่ทางนักวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สะท้อนไว้ กรณี “โรงเรียนหลักสูตรไทยฟุบ โรงเรียนนานาชาติฟีเวอร์”

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

กับมุม “ธุรกิจสถานศึกษา” นั้นก็ว่าไป

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

แต่ “การศึกษาเด็กไทยส่วนใหญ่” นี่สิ

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

สถานการณ์นี้ “น่ากังวลหรือไม่??”.

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์

ไทยปิดอินเตอร์เปิดธุรกิจโรงเรียนเด็กๆน่าเป็นห่วงเดลินิวส์

很赞哦!（19）